เล่นหุ้น,สอนเล่นหุ้นเทคนิค
ใครก็อยากรวย และการเล่นหุ้นหรือลงทุนในหุ้นก็คืออีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้มนุษน์เงินเดือนอย่างคุณรวยได้
แต่มนุษย์เงินเดือนก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานไม่มีเวลามาเฝ้าติดตามราคาหุ้นตลอดเวลา เพราะงานก็คือเงินเหมือนกัน แต่การเป็นมนุษย์เงินเดือนก็มีวิธีเล่นหุ้นหรือลงทุนในหุ้นแบบมนุษย์เงินเดือนเช่นกัน วันนี้ผมเลยมาแบ่งปันวิธีการเล่นหุ้นแบบมนุษย์เงินเดือนเพื่อให้มนุษย์เงินเดือนแบบเราๆ เล่นหุ้นได้สนุกกันครับ
5 วิธีเล่นหุ้นให้สนุกสำหรับมนุษย์เงินเดือน
- ไม่เล่นหุ้นแบบ Day trade : คุณคงเคยได้ยินคำว่า Day trade เป็นการเล่นหุ้นแบบรายวันทำให้คุณต้องเล่นหุ้นแบบไม่นั่งเฝ้าราคาหุ้นตลอดเวลา คุณเห็นด้วยมัยถ้าคุณเฝ้ามองราคาทั้งวันคุณจะทำงานประจำของคุณแบบสนุกสนานได้ยังไง ที่สำคัญถ้าคุณเฝ้าราคาหุ้นทั้งวันจะทำให้คุณเสียงานจนอาจทำให้คุณตกงานเลยก็ได้
- เล่นหุ้นเทคนิคหากำไรเป็นรอบๆ : ถ้าคุณเป็นเป็นมนุษย์เงินเดือนการเล่นหุ้นแบบเป็นรอบๆ นี้สำคัญมาก เพราะการเล่นแบบนี้ไม่ทำให้คุณต้องเสียเวลาในการเฝ้าหน้าจอทั้งวันคุณสามารถเล่นรอบโดยใช้ราคาปิดของวันก็ได้ แค่คุณใช้เวลาเพียงไม่กี่ชม.หลังตลาดหุ้นปิดวางแผนเลือกหุ้นที่น่าลงทุนและเฝ้าติดตามผล แถมยังไม่ทำให้คุณเสียงานที่คุณทำอยู่ประจำอีกด้วย
- ซื้อหุ้นเหมือนซื้อกิจการ : ถ้าคุณซื้อกิจการคุณต้องวิเคราะห์ปัจจัยหลากหลายอย่าง ถ้ามาเทียบกับหุ้นก็เป็นกฎของนักลงทุนแนวพื้นฐาน (Fundamental) และนักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor) เมื่อราคาหุ้นตกโดยที่ผลประกอบการของกิจคุณยังดีอยู่คุณคงไม่ขายหุ้นของตัวเองถูกมัยครับ การเล่นหุ้นแบบนี้จะทำให้คุณไม่สนใจราคา แต่จะมาสนใจที่ผลประกอบการของบริษัทมากกว่า ทำให้คุณซึ่งเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่ต้องเฝ้าราคาอีกด้วย เพราะผลประกอบจะออกทุกๆ 3 เดือน
- เล่นหุ้นแบบฝากประจำ : ทุกวันนี้คุณรู้อยู่แล้วว่าเงินฝากธนาคารให้ดอกเบี้ยเท่าไร 0.25-4%(17 พ.ค. 59) ถ้าคุณเล่นหุ้นแบบฝากเงินประจำ เช่นถ้าคุณมีรายได้ 20,000 บาท เก็บสักเดือนละ 5,000 บาท ตลาดหุ้นก็จะทำให้คุณมีกำไรแน่นอน และถ้าเพิ่มเทคนิคในการเล่นหุ้นเข้าไปอีกคุณจะได้ผลตอบแทนเยอะกว่าอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไปอีก
- ไม่หวังรวยเร็วเกินไป : ส่วนตัวผมมองว่าวิธีนี้สำคัญที่สุดมนุษย์เงินเดือนบ้างคนเวลาเล่นหุ้นหวังว่าซื้อวันนี้พรุ่งนี้จะได้กำไรเยอะ จากประสบการณ์การเล่นหุ้นแบบนี้มีความเสี่ยงสูงและคุณต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา ซึ่งมนุษย์เงินเดือนอย่างเราไม่ควรเล่นแบบนี้เป็นอย่างยิ่ง เน้นใช้การมองเทรนหรือเล่นรอบจะดีกว่า
5 วิธีเล่นหุ้นที่ผมเอามาแชร์ ผมหวังว่าจะช่วยให้คุณเล่นหุ้นแบบมนุษย์เงินเดือนได้สนุกมากยิ่งขึ้นนะครับ
เฟสบุคแฟนเพจ :
- เล่นหุ้นมีแต่รวย ไม่มีเจ๊ง
- สอนมือใหม่เล่นหุ้นด้วยเงินห้าพัน
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
สอนมือใหม่เล่นหุ้น
หลายคนคงสงสัยว่าทำคนส่วนใหญ่ชอบเล่นหุ้นจัง หุ้นมันดียังไง และมันน่าลงทุนตรงไหน
1.หุ้นให้ผลตอบแทนโดยเฉลียที่ค่อนข้างสูง
ถ้าเทียบกับอัตราผลตอบแทนในเงินฝาก หรือพันธบัตร หุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 11.04% (ข้อมูลนี้อ้างอิงจากเว็บไซต์ start-to-invest.com) ซึ่งถ้าเทียบกับการลงทุนแบบรับดอกเบียเงินฝาก 3.02% หรือ พันธบัตร 5.65% แล้วผลตอบแทนของหุ้นค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
2.หุ้นทำให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่ายและลงทุนน้อย
ทำไมเป็นแบบนั้นลองคิดดุนะครับว่า ถ้าคุณจะสร้างธุรกิจ 1 อย่างต้องใช้เงินลงทุนมากขนาดไหน และถ้าเกิดเปิดธุรกิจแล้วไม่เป็นอย่างที่คิดเกิดภาวะขาดทุนคุณจะขายธุรกิจเพื่อเปลี่ยนกิจการยากมัยครับ
แต่หุ้นคือคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรก็ได้ที่คุณอยากเป็น และที่สำคัญถ้าสถานะการณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด(ขาดทุน หรือ เศรฐกิจไม่อำนวย) คุณก็สามารถเปลียนธุรกิจได้เลยไม่ยุ่งยาก
3.หุ้น=ทรัพย์สิน
คุณคงเคยได้ยินว่า “รายได้ที่ทำให้คุณรวยได้ ไม่ได้มาจากรายได้ที่เกิดจากการทำงาน แต่เป็นรายได้ที่คุณไม่ต้องทำงานก็มีรายได้” นั้นคือรายได้จากทรัพย์สิน ถูกมัยครับ
“หุ้น=ทรัพย์สิน” เพราะหุ้นสามารถสร้างรายได้ให้คุณได้โดยที่คุณไม่ต้องทำงาน ซึ่งนั้นเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งที่ทำให้คุณรวยได้นั้นเอง จึงทำให้คนส่วนใหญ่หันมาลงทุนในหุ้นกันมากขึ้น
ใครหลายคนอาจจะเข้ามาในตลาดหุ้นเพราะมีคนบอกว่าเล่นหุ้นแล้วรวย แต่ไม่ได้บอกเหตุผลว่ามันรวยได้เพราะอะไร ทำให้เข้าใจผิดว่าตลาดหุ้นคือบ่อนการพนันและเข้ามาหวังจะได้กำไรด้วยดวง ผลสุดท้ายก็ต้องออกจากการเล่นหุ้นไปเพราะตลาดหุ้นไม่ตอบโจทย์ว่าการเล่นหุ้นไม่สามารถทำให้คุณรวยได้จริงหลอก
แต่ถ้าคุณเข้าใจว่าหุ้นคืออะไร และจะทำให้คุณรวยได้อย่างไร โอกาสที่จะทำให้คุณรวยจากการเล่นหุ้นก็เปิด
ที่นี้คุณคงรู้ข้อดีของการเล่นหุ้นกันเรียบร้อย ดั้งนั้นเราก็มาเล่นหุ้นกันเถอะ
ติดตาม Fanpage :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
Ads.โฆษณา
สอนมือใหม่เล่นหุ้น,สอนเล่นหุ้น
เล่นหุ้นราคาถูก…เล่นง่ายได้กำไรดี๊ดี เป็นแนวคิดที่คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่จริง
คนเล่นหุ้นส่วนมากชอบเล่นหุ้นราคาถูก เนื่องจากโอกาสกำไรย่อมมีมากกว่า หุ้นที่มีราคาแพง แต่ทำไมเม่าถึงติดดอยกับหุ้นราคาถูกละ
แนวคิดการเล่นหุ้นของเม่าถูกแล้ว แต่ความเข้าใจของเม่าอาจผิดเพลียนไปนิดหน่อย
….เม่า….(ติดดอย)
หุ้นราคาถูก = หุ้นราคาไม่ถึงบาท
…เซียนหุ้น…(ติดจรวด)
หุ้นราคาถูก = หุ้นที่ผลประกอบการดี PE ต่ำ
หุ้นทั้ง 2 แบบ มีราคาถูกเหมือนกัน…และได้กำไรดีเหมือนกันเวลาขึ้นครับ แต่หุ้นทั้ง 2 แบบมีความหมายต่างกันอย่างสินเชิง
การเล่นหุ้นราคาถูกในความหมายของ เม่า คือการเล่นหุ้นที่ราคาต่ำๆ เช่น 0.01-2 บาท เวลาหุ้นขึ้น 1 สเตปกำไรจะได้เยอะกว่าหุ้นที่มีราคาสูง ตัวอย่าง หุ้นราคา 0.01 บาท เมื่อราคาขึ้นไปราคา 0.02 บาท(ขึ้น 1 สเตป) ทำให้กำไร 100% เห็นแบบนี้เรียกกว่ากำไรดีถูกมัยครับ
แต่หุ้นแบบนี้ส่วนใหญ่มักผลประกอบการไม่ดี อาจถึงกับขาดทุนเลยทีเดียว แต่เม่าก็เห็นว่าราคาถูกเลยเข้าซื้อพร้อมรับความเสียง(เคยได้ยินว่าการลงทุนมีความเสียง คุณรับความเสียงได้เท่าไร คุณก็ได้ผลตอบแทนมากเท่านั้น) ผลสุดท้ายติดดอยเพราะหุ้นราคาถูก
กลับกันการเล่นหุ้นราคาถูกของ เซียนหุ้น คือ การให้ความสำคัญกับผลประกอบการ,การเติบโตของบริษัท และ PE ต่ำ
ลองคิดดุว่า ถ้าบริษัทมีกำไรเติบโต แต่ราคาหุ้นต่ำ(เมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้น) แถมจ่ายปันผลให้อีก หุ้นแบบนี้ราคาจะวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงราคามาตรฐาน แต่เนื่องจากบริษัทมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ราคาขึ้นและกำไรดี๊ดี และนอกจากได้กำไรจากราคาหุ้นแล้ว(กำไรไม่มีรีมิท) ยังได้ปันผลมาใช้จ่ายต่อปีอีก
การเล่นหุ้นของเม่าแค่ปรับแนวคิดนิดหน่อยจาก ”เม่า” ก็จะเป็น ”เชียนหุ้น” ทันที ที่นี้เม่าก็จะลงดอยเมื่อไรก็ได้
วิธีเล่นหุ้นนี้ เป็นแค่หนึ่งวีธีที่ใช้ช่วนให้เม่าลงดอย ยังมีอีกหลายวิธีที่ช่วยให้เม่าลงดอยได้นะครับ เนื่องจากปลายไม่ได้มีทางไปแค่ทางเดียว
ขอบคุณที่ติดตามบทความและผลงานผมครับ
ติดตาม Fanpage :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
Ads.โฆษณา
สอนมือใหม่เล่นหุ้น,สอนเล่นหุ้น
เล่นหุ้นให้ได้กำไร 200% ทำยังไง…
มีหลายคนถามผมว่าเล่นหุ้นยังไงให้ได้กำไร 100% 200% หรือ 300% อาจจะเป็นเพราะคุณพลาดอะไรบางอย่างในการเล่นหุ้นไป
ทำไมเม่าถึงขายหมู อาจเป็นเพราะ…
เม่าเล่นหุ้นเทคนิค : เคยซื้อหุ้นตัวหนึ่ง ชื่อหุ้นxxx และราคาก็วิ่งไปถึง 20% แต่ไม่ขาย ผ่านไป 2-3 วันราคาลงมากลายเป็นขาดทุน ทำให้ต้องขายแบบจำใจ
หลังจากนั้นเวลาเม่าเล่นหุ้น เวลาซื้อพอราคาขึ้นกำไรนิดหน่อยก็ขาย เพราะกลัวว่าราคาจะตกมาขาดทุนอีก เลยเป็นที่มาของ “เล่นหุ้นกำไรน้อย…ก็ดีกว่าขาดทุน”
“เล่นหุ้นกำไรน้อย…ก็ดีกว่าขาดทุน” ดูแล้วเป็นแนวคิดที่ดี แต่จริงเป็นดาบ 2 คม
ข้อดี : การเล่นหุ้นนั้น กำไรยังไงก็ดีกว่าขาดทุนแน่นอน (แต่กำไรนิดเดียวจะดีจริงเหรอ)
ข้อเสีย : กำไรถูกจำกัด…กำไรนิดเดียวก็ขายและจะได้กำไร 100% 200% ได้ยังไง และถ้าเวลาขาดทุนไม่ยอมขาย(=ขาดทุนไม่จำกัด) ทำให้เวลาขาดทุนเยอะกว่ากำไรแล้วจะประสบความสำเร็จยังไง
ถ้าคุณซื้อหุ้นทุกตัวและกำไรทุกตัว ตัวละ 10% อันนั้นคุณประสบความสำเร็จแน่นอน…แต่ความเป็นจริง คือซื้อหุ้นให้กำไร 10% ทุกตัว เป็นไปได้ยากมาก(เทพยังทำลำบากไม่ได้เลย)
นักเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จบางคนให้นิยามว่า “ย้อมขาดทุนนิดหน่อยดีกว่ายอมขายหมู” เพราะถ้าคุณขายหมู คุณจะเสียดายกว่าการขาดทุนเสียอีก (แบบภาพด้านบน ToT)
แต่…การเล่นหุ้นแบบนี้ต้องมีเครื่องมือช่วยหาจุดขายที่ถูกต้องด้วย และบล็อคนี้จะบอกให้คุณรู้…ว่ามีเครื่องมืออะไรบ้างที่ช่วยคุณได้
บทความการเล่นหุ้นคอนเซ็ปเม่าเล่นหุ้น “กำไรน้อย…ดีกว่าขายขาดทุน”(ขายหมู) นี้ขอจบเท่านั้นครับ และหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เม่า เล่นหุ้นได้สนุก และได้กำไรมากขึ้น
ขอบคุณที่อ่านบทความและติดตามผลงานนะครับ
ติดตาม Fanpage :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
Ads.โฆษณา
สอนมือใหม่เล่นหุ้น,สอนเล่นหุ้น
เมื่อเวลานั้นมาถึงจะทำยังไงดี…
หลายคนบอกว่าหลักการเล่นหุ้นง่ายมากมาก แค่ซื้อถูกหายแพงไม่มีอะไรอยากตรงไหน
หลายคนบอกว่าซื้อแล้วไม่ขายก็ไม่ขาดทุน….เดี๋ยวราคาก็กลับมาที่เดิม
หลายคนสงสัยว่าทำถึงเรียกคนติดดอย หรือเสียเงินให้กับการเล่นหุ้นว่า “เม่า” ในความคิดส่วนผมไม่คิดว่าการเสียเงินให้กับการเล่นหุ้นนั้นจะเรียกว่า “เม่า” หลอกครับ แต่เกิดจากที่คน คนนั้นยอมเสียเงินให้ตลาดหุ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ว่าจะลงดอยมากี่ครั้งคน คนนั้นก็จะกลับขึ้นไปอีกโดยไม่สนใจอะไร
ทฤษฎีเม่า….ไม่ขายไม่ขาดทุน
“เม่า” หุ้นxxxx มีคนเชียร์ว่าหุ้นตัวนี้ราคาวิ่งไปอีกใกล แต่แล้วเมื่อ “เม่า” ซื้อราคาหุ้นก็ล่วงลง 10%
“เม่า” เลยขายเพราะเคยได้ยินว่าถ้าราคาหุ้นลงมา 10% ควรขายออกไปก่อน เพราะสิ่งที่เข้าใจอาจจะไม่ถูกต้อง และก็ลงต่ออย่างที่คาดไว้อีก 10% และ “เม่า” ก็เลยเข้าซื้อหุ้นตัวนั้นอีกรอบ เพราะเห็นว่าราคาลงมาเยอะแล้ว แต่ราคาก็ยังลงต่อ
เมื่อ “เม่า” เห็นราคาลงต่อก็เลยขายอีกครั้ง แต่ราคาก็เด่งขึ้นไป 20% เท่ากับราคาที่ขายทิ้งไปรอบแรก “เม่า” ตกใจเข้าไปซื้ออีกรอบ
และราคาก็ล่วงลงมาต่ออีก 10% “เม่า” เลยคิดว่าไม่ขายดีกว่าเดี๋ยวราคาก็ขึ้นกับไปที่เดิม และราคาก็ลงต่อไปอีก 20% รวมราคาที่ลงก่อนหน้านี้ก็ 30%
ที่นี้ “เม่า” ก็เริ่มกลัวไม่กล้าขายเพราะขาดทุนเยอะเกินไปทำใจไม่ได้ เป็นเหตุทำให้ “เม่า” ต้องดอยด้วยทฤษฎีเม่า….ไม่ขายไม่ขาดทุน
จริงๆ แล้ว “ทฤษฎีเม่า….ไม่ขายไม่ขาดทุน” นี้ผมเชื่อว่าในหมู่เม่าทั้งหลายรู้ดีกันอยู่แล้วว่า…การเล่นหุ้น “ไม่ขายก็ขาดทุน” แต่ทำใจไม่ได้เพราะถ้าขาย…เงินที่ขาดทุนอยู่ก็หายไปจริงๆ แต่ถ้าไม่ขายเม่าก็ยังเห็นเงินในพอร์ตหุ้นว่าติดลบอยู่ เงินที่ซื้อหุ้นไว้ก็ไม่ได้ไปไหน(ก็ปลอบใจตัวเองกันไป)
ทำไม “ไม่ขายถึงขาดทุน”
- จริงๆ คือคุณไม่ได้ขาดทุนตัวเงิน แต่คุณขาดทุนเวลา เพราะต่อให้ราคาหุ้นที่คุณซื้อกลับมาที่ราคาเดิมแต่ใช้เวลา 10 ปี เท่ากับคุณลงเงินไว้โดยไม่ได้ทำอะไรเลย 10 ปี ซึ่งจริงๆ เงินตรงนั้นอาจไปทำกำไรกับหุ้นตัวอื่นได้ดีกว่าและใช้เวลาสั้นกว่า
- ถ้าคุณไม่ขาย กรณีที่ 1 ถือว่าโชคดีราคากลับมาที่ราคาที่คุณซื้อ แต่ถ้าไม่กลับมาที่ราคาที่คุณซื้อละ ผลสุดท้ายคุณก็ต้องขาย อาจจะต้องขายถูกกว่าราคาที่คุณเห็นว่าต้องขายอีกหลาย% เลยทีเดียว
ตัวอย่าง : หุ้นSiXX ผมเคยซื้อตอน 4.24 บาท ขายไปตอน 4.10 บาท ผมขาดทุนประมาณ 3% ถ้าผมไม่ขาย ผ่านไป 3 ปี ปัจจุบันราคา 1.53 บาท และถ้าผมมาขายตอนนี้เท่ากับผมขาดทุนประมาณ 63% และถ้าผมรอก็ไม่รู้ว่าราคาหุ้นจะกลับไปที่ 4.24 เมื่อไร อาจเป็น 3-10 ปี หรืออาจมากกว่านั้นผมกำหนดไม่ได้เลย
โจ้หวังว่าคุณจะเข้าใจการเล่นหุ้นทฤษฎีเม่า….ไม่ขายไม่ขาดทุน แล้วและก็หวังว่าจะช่วยให้ “เม่า” อยู่บนดอยไม่ขึ้นดอยใหม่ด้วยทฤษฎีนี้อีกนะครับ ขอบคุณที่ตามอ่านครับ
ติดตาม Fanpage :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ใคร ใคร ก็ไม่อยากเป็นเม่า…ในการเล่นหุ้น
ประโยคนี้ได้ยินมาหนาหูมาก เกี่ยวกับการเล่นหุ้นว่านักลงทุนรายย่อยอย่างเราเป็นเม่า แต่คุณรู้มัยเม่านี้มีจุดเด่นที่คนเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คนมี (แต่เม่าเอาจุดเด่นไปใช้ในทางที่ผิด)
คุณสมบัติของคนเล่นหุ้นแล้วประสบความสำเร็จ
- มั่นใจในตนเอง : คนเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จเลยจะมีจุดเด่นข้อนี้ครับ เพราะถ้าคนเล่นหุ้นไม่มั่นใจตนเอง จะทำให้ไม่สามารถซื้อหุ้นได้และไม่มีความสุขในการเล่นหุ้นเลย และถ้าไม่ความสุขในการเล่นหุ้น ก็จะไม่สามารถประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้
- ความอดทน : คนเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จจริงแล้วคนพวกนี้มีความอดทนสูงมาก เพราะกว่าจะประสบความสำเร็จได้ต้องใช้เวลาถ้าไม่อดทนในสิ่งที่ตัวเองเชื่อก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จได้
- เพื่อนฝูงรักใคร่ : คนเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จ ส่วนมากจะมีคนรักใคร่เสมอ คอยเข้ามาหา คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเราชอบนักลงทุนติดตามผลงานของนักลงทุน/นักเล่นหุ้น ที่ประสบความสำเร็จใช่มัยครับ
- มีความรู้ : ข้อนี้ขาดไม่ได้เลย เพราะถ้าคุณจะประสบความสำเร็จในการเล่นหุ้นคุณต้องมีความรู้เกี่ยวกับหุ้นและความเข้าใจ
ถ้าคุณมี 4 ข้อนี้คุณก็เล่นหุ้นประสบความสำเร็จ ซึ่งผมมองว่าคนเป็น “เม่า” นั้นมีคุณสมบัติเกียบครบอยู่แล้ว
จุดเด่น 3 ข้อของเม่า
- มั่นใจในตนเอง : เม่ามั่นใจตนเองสูงมาก คิดว่าซื้อแล้วไม่ขาดทุนแทนนอนจึงไม่ยอมขายหุ้นตัวที่ซื้อมา
- เม่ามีความอดทนสูง : ผมเชื่อว่าคุณหลายๆ คนคงไม่ปฏิเสธว่าคนที่เป็น เม่า นั้นมีความอดทนสูงมาก เผลอๆ มากกว่าคนที่ประสบความสำเร็จในการเล่นหุ้นปัจจุบันอีก เพราะเม่ายอมทนถือหุ้นได้ขนาดราคาหุ้นตกลงมาถึง 90% ได้เลยทีเดียว
- เพื่อนฝูงรักใคร่ : อันนี้รับประกันครับว่า “เม่า” คนรักใครเยอมาก โดยเฉพาะคนที่เราเรียกกันว่า “เจ้า” เพราะแนะนำว่าดีซื้อหมด รากไปไหนไปกันไม่มีบ่น
จะเห็นว่าคนเป็น “เม่า” ขาดเพียงข้อเดียวคือ “ความรู้ในการเล่นหุ้น”
ผมรับรองว่าคนเป็น “เม่า” ถ้ามีข้อนี้เพิ่มขึ้นมาเค้าจะไม่ใช่แค่ลงดอยเท่านั้น จะกลายเป็นพญาเม่าที่กระโดดจากยอดดอย ก็ยังสามารถบินขึ้นไปได้หรือบินลงมาจากดอยโดยไม่เจ็บตัวแน่นอน
โจ้หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เห็นว่าจริงๆ แล้วการการเล่นหุ้นแบบเม่าไม่ได้ไม่ดี เพียงแค่อาจต้องเพิ่มอะไรบางอย่างเข้าไป(ความรู้ในการเล่นหุ้น)ก็จะทำให้การเล่นหุ้นของเม่านั้นประสบความสำเร็จได้ไม่อยาก
ติดตาม Fanpage :
คุณเป็นเม่าอยู่หรือเปล่า ในการเล่นหุ้น
…หลายคนสงสัยว่าเอ๊ะ และเราเป็นเม่าหรือเปล่า
Blog นี้ชื่อ “ชวนเม่าลงดอย” ก่อนที่จะชวนเม่าทั้งหลายลงดอยได้ เราก็ต้องรู้ก่อนว่าลักษณ์ของเม่าเป็นยังไง คุณเป็นหนึ่งในเม่าที่อยู่บนดอยหรือเปล่า
หมายเหตุ : ศัพท์ “ดอย” หมายถึง หุ้นที่ราคาขึ้นไปสูงๆ แล้วราคาก็ตกลงต่ำกว่าราคาที่เราซื้อ
ดังนั้นเรามาดูคุณสมบัติการเป็นเม่ากัน
10 สมบัติที่บอกว่าคุณเป็นเม่า
- ชอบเล่นหุ้นราคาถูก : คิดว่าหุ้นราคา 0.01 บาท เป็นหุ้นราคาถูกแต่ไม่คำนึกถึงกำไรของหุ้นนั้น
- ซื้อหุ้นตามเพื่อน : เพื่อนบอกซื้อ หุ้นxxx เพราะ……. เพื่อนถามซื้อหุ้นไร “ตัวเมื่อกี้ที่เมิงบอกนี้ละ”(ซื้อตามเมิง)
- ใครเชียร์ว่าดีเราก็ซื้อหมด : ข่าว-ราคา หุ้นxxx จะไปถึง 5 บาท “ซื้อ” ราคาเท่าไรไม่รู้ซื้อไว้ก่อน
- ซื้อเอาปันผล : หุ้นxxx จ่ายปันผลพรุ่งนี้ ซื้อไว้หน่อยละกันยังไงก็ได้ปันผล
- ชอบจริงซื้อแพงขายถูก : ราคานี้ไปได้อีกไกล แต่ไงร่วงสะงั้น
- ชอบหุ้นติดจรวด : วันนี้ราคาหุ้นวิ่งแรงซื้อหน่อยละกัน…ยอดดอย
- ทนรอไม่เป็น(เฉพาะกำไร) : กำไรนิดเดียวดีกว่าขาดทุน(ทั้งที่บ้างทีซื้อหุ้นถูกตัว ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไป 10 เท่าในเวลาต่อมา)
- ขาดทุนทนได้ : ขาดทุนเหรอ…เราไม่ขายทนรอได้ เดี๋ยวราคาก็กับมาที่เดิม(โชคดีผ่านไป 10 ปี กลับมาที่เดิม)
- หุ้นลงคิดว่าถูก : หุ้นลงมาหลายวันละ…ถูกจังเลย
- ซื้อถัวเฉลียขาลง : หุ้นลงเหรอ ไม่เป็นไร เราซื้อถัวเข้าไปเดียวราคาขึ้นมาเท่าเดิมเราก็ได้กำไร
ถ้าใครคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติครบ บล็อคนี้น่าจะเป็นตัวช่วยตัวหนึ่งที่จะอาจจะช่วยคุณได้ เพราะจุดประสงค์ของบล็อคนี้คือ “ชวนเม่าลงดอยกัน”
ติดตาม Fanpage :
